ตลาดหุ้นไทยปิด +4.24 จุด โบรกฯ ชี้ภาพรวมสอดคล้องกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย หลังนักลงทุนรับรู้ข่าวธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยปีนี้ แนะให้ติดตามผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Bond Yield) สหรัฐฯ พร้อมประเมินกรอบการลงทุนซื้อหวยออนไลน์ถูกกฎหมายมั่นใจได้พรุ่งนี้แนวต้านที่ 1,690 จุด และ แนวรับที่ 1,660 จุด

ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 17 มกราคม 2565 ปรับตัวเพิ่มขึ้น +4.24 จุด หรือ +0.25% โดยปิดตลาดที่ 1,676.87 จุด มูลค่า การซื้อขายสุทธิกว่า 82,389.00 ล้านบาท โดยภาพรวมดัชนีหุ้นไทยวันนี้เคลื่อนไหวอยู่ในแดนบวก ซึ่งปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,680.39 จุด และปรับตัวลดลงต่ำสุดที่ 1,672.93 จุด

ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้น จำนวน 630 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลง จำนวน 552 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลง จำนวน 1,011 หลักทรัพย์

ขณะที่ปริมาณการซื้อขายขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุน พบว่า นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิกว่า 1,646.57 ล้านบาท และบัญชี บล. ซื้อสุทธิกว่า 743.12 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิกว่า -1,262.64 ล้านบาท และนักลงทุนสถาบันขายสุทธิกว่า -1,127.05 ล้านบาท

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.TKC มูลค่าการซื้อขาย 4,686.97 ล้านบาท ปิดที่ 30.00 บาท เพิ่มขึ้น 12.00 บาท
2.GULF มูลค่าการซื้อขาย 4,381.31 ล้านบาท ปิดที่ 52.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.75 บาท
3.AOT มูลค่าการซื้อขาย 2,388.15 ล้านบาท ปิดที่ 61.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
4.GUNKUL มูลค่าการซื้อขาย 2,343.66 ล้านบาท ปิดที่ 6.15 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท
5.GPSC มูลค่าการซื้อขาย 2,319.94 ล้านบาท ปิดที่ 87.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท

ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.EA ปิดที่ 95.75 บาท เพิ่มขึ้น 2.25 บาท หรือ 2.41%
2.GULF ปิดที่ 52.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.75 บาท หรือ 3.48%
3.GPSC ปิดที่ 87.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท หรือ 1.75%
4.AOT ปิดที่ 61.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท หรือ 1.65%
5.BH ปิดที่ 136.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท หรือ 0.74%

ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.RCL ปิดที่ 48.00 บาท ลดลง 2.50 บาท หรือ 4.95%
2.ADVANC ปิดที่ 218.00 บาท ลดลง 2.00 บาท หรือ 0.91%
3.AEONTS ปิดที่ 186.00 บาท ลดลง 1.50 บาท หรือ 0.80%
4.BLA ปิดที่ 43.25 บาท ลดลง 1.25 บาท หรือ 2.81%
5.KTC ปิดที่ 59.75 บาท ลดลง 1.25 บาท หรือ 2.05%

ดัชนี SET100 ปิดที่ 2,277.88 จุด เพิ่มขึ้น 4.77 จุด หรือ 0.21% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 996.67 จุด เพิ่มขึ้น 2.78 จุด หรือ 0.28% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 683.70 จุด เพิ่มขึ้น 1.44 จุด หรือ 0.21%

นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้เคลื่อนไหวอยู่ในแดนบวก สอดคล้องกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวกและลบสลับกัน เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยใหม่ หลังนักลงทุนรับรู้ข่าวธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยปีนี้ โดยจะเริ่มในเดือน มี.ค.65 ไปพอสมควรแล้ว ทำให้ต้นสัปดาห์อยู่ในโหมด Wait & See เป็นส่วนใหญ่

ขณะที่ส่วนแนวโน้มวันพรุ่งนี้คาดว่า ตลาดน่าจะทรงตัว โดยแนะให้ติดตามผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Bond Yield) สหรัฐฯ จากทำระดับสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง ซึ่งอาจกระทบ Earning yield gap ตลาดหุ้นต่างๆ ได้ ให้แนวต้าน 1,690 จุด และแนวรับ 1,660 จุด