บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT พร้อมเปิดให้นักลงทุนรายย่อยจองซื้อหุ้นกู้แบบไร้ใบ (Scripless) MINT e-Bond รวม 3 ชุด จ่ายดอกเบี้ยแบบคงที่ 3.00-3.60% ต่อปี ย้ำผู้ลงทุนเปิดพอร์ตหลักทรัพย์ได้เองผ่านระบบออนไลน์เพื่อรับหุ้นกู้เข้าพอร์ต สะดวกและรวดเร็ว จองซื้อขั้นต่ำเพียง 10,000 บาท ในวันที่ 21-23 มี.ค.นี้

วันที่ 15 มีนาคม 2565 นายชัยพัฒน์ ไพฑูรย์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายพัฒนาเชิงกลยุทธ์ บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT เปิดเผยว่า ในวันที่ 21 – 23 มีนาคม 2565 พร้อมเปิดให้นักลงทุนรายย่อยจองซื้อหุ้นกู้แบบไร้ใบ (Scripless) MINT e-Bond ครั้งที่ 1/2565 ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน มีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ และผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนวันครบกำหนดไถ่ถอน รวม 3 ชุด

ได้แก่ หุ้นกู้ชุดที่ 1 อายุ 3 ปี 2 เดือน อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.00% ต่อปี หุ้นกู้ชุดที่ 2 อายุ 5 ปี 4 เดือน อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.60% ต่อปี และหุ้นกู้ดิจิทัลชุดที่ 3 อายุ 4 ปี 4 เดือน อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.30% ต่อปี กำหนดชำระดอกเบี้ยทุก 6 เดือน ตลอดอายุหุ้นกู้ ซึ่งถือเป็นทางเลือกการลงทุนแก่ผู้ที่ต้องการได้รับผลตอบแทนอย่างสม่ำเสมอและมีความเสี่ยงต่ำกว่าการลงทุนในหุ้นสามัญ

นอกจากนี้ ผู้ลงทุนจะได้รับสิทธิพิเศษส่วนลด 10% จาก ร้านอาหารในเครือไมเนอร์ฯ 6 แบรนด์ที่ร่วมรายการ ได้แก่ เดอะพิซซ่า คอมปะนี, บอนชอน, สเวนเซ่นส์, ซิซซ์เล่อร์, เบอร์เกอร์คิง และเดอะ คอฟฟี่ คลับ (ยกเว้นสาขาในสนามบิน) ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคมนี้ ไปตลอดอายุหุ้นกู้ที่เลือกลงทุน (ไม่จำกัดจำนวนครั้ง)

 

บริษัทและหุ้นกู้ดังกล่าวได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ “A” จากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด (ประกาศเมื่อวันที่ 13 มกราคม 2565) กำหนดมูลค่าจองซื้อขั้นต่ำเพียง 10,000 บาท และเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณของ 10,000 บาท สูงสุดไม่เกิน 50 ล้านบาทต่อรายต่อผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้

โดยหุ้นกู้ชุดที่ 1 และชุดที่ 2 จะเสนอขายผ่านช่องทางต่างๆ ของสถาบันการเงิน 5 แห่งที่เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ และบริษัทหลักทรัพย์เกียรตินาคินภัทร (ซึ่งรวมถึงธนาคารเกียรตินาคินภัทรในฐานะหน่วยงานขาย)

ทั้งนี้ หุ้นกู้ชุดที่ 1 และชุดที่ 2 จะถูกฝากเข้าพอร์ตหลักทรัพย์ของผู้ลงทุนเท่านั้น ซึ่งช่วยเพิ่มความสะดวกแก่ผู้ลงทุนไม่ต้องดูแลรักษาใบหุ้นและยังคงได้รับดอกเบี้ยและเงินต้นตามวิธีการปกติ ดังนั้น ผู้ที่ยังไม่มีพอร์ตหลักทรัพย์สามารถเปิดพอร์ตผ่านระบบออนไลน์ได้ด้วยตนเอง ไม่มีค่าใช้จ่าย ใช้เวลาไม่นาน เพียงแค่ดำเนินการตามขั้นตอนที่ระบุไว้

ส่วนหุ้นกู้ชุดที่ 3 ซึ่งเป็นหุ้นกู้ดิจิทัล จะเปิดจองซื้อผ่านวอลเลตซื้อขายหุ้นกู้บนแอปพลิเคชั่น “เป๋าตัง” โดยทำการดาวน์โหลดแอปเป๋าตัง สมัครบริการวอลเลตซื้อขายหุ้นกู้และทำแบบประเมินความเสี่ยงผู้ลงทุน และเติมเงินใน Wallet ID ให้พร้อม เพื่อจองซื้อหุ้นกู้ดิจิทัลได้ตั้งแต่เวลา 08.30 น. ของวันที่ 21 มีนาคม ถึงเวลา 15.00 น. ของวันที่ 23 มีนาคม 2565 หรือจนกว่าจะมีผู้จองซื้อเต็มจำนวน

นอกจากนี้ ผู้ลงทุนที่ได้รับการจัดสรรหุ้นกู้ สามารถซื้อขายหุ้นกู้ดิจิทัลแบบเรียลไทม์ในตลาดรองตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านวอลเลตซื้อขายหุ้นกู้ทางแอปเป๋าตังได้ตั้งแต่วันออกหุ้นกู้เป็นต้นไป ทั้งนี้ สำหรับหุ้นกู้ทั้ง 3 ชุด หากผู้ลงทุนต้องการปรับเปลี่ยนรูปแบบเพื่อรับใบหุ้นกู้ในภายหลัง สามารถแจ้งนายทะเบียนหุ้นกู้หรือบริษัทหลักทรัพย์ที่เปิดพอร์ตให้ดำเนินการได้ (มีค่าธรรมเนียม)

บริษัทประสบความสำเร็จกับกลยุทธ์นี้มาแล้วในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ที่แม้ว่าก่อนหน้านี้นักท่องเที่ยวจีนนั้นเป็นลูกค้า Top 3 ของโรงแรม ของบริษัทใน Maldives แต่พอเข้าช่วง COVID-19 นักท่องเที่ยวจีนถูกจำกัดการเดินทาง บริษัทได้ปรับตัวอย่างรวดเร็วและปรับเปลี่ยนกลยุทธ์เพื่อโฟกัสลูกค้ากลุ่มใหม่ ๆ ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก เห็นได้จากจากผลประกอบการของโรงแรมใน Maldives ได้ปรับตัวสูงขึ้นมากกว่าในช่วงก่อน COVID-19 ตั้งแต่ไตรมาส 3/2564 เป็นต้นมา

ขณะที่ผลการดำเนินงานของบริษัท ในไตรมาส 4/2564 ฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง โดยมีกำไรจากการดำเนินงานกว่า 1,600 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีผลขาดทุนจากการดำเนินงานกว่า 4,200 ล้านบาท และนับเป็นการกลับมาทำกำไรครั้งแรกในรอบ 7 ไตรมาสที่ผ่านมาหลังเกิดการแพร่ระบาดของ COVID-19 เนื่องจากผลการดำเนินงานที่ฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งทั้ง 3 หน่วยธุรกิจหลัก

นอกจากนี้บริษัทมีกระแสเงินสดกว่า 25,000 ล้านบาท และวงเงินสินเชื่อ พร้อมใช้กว่า 33,000 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2564 ตอกย้ำความพร้อมสำหรับการดำเนินธุรกิจในช่วงฟื้นตัว

ทั้งนี้ ผู้ลงทุนที่สนใจจองซื้อหุ้นกู้ชุดใหม่ของ MINT สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้จากร่างหนังสือชี้ชวน หรือสอบถามจากสถาบันการเงินทั้ง 5 แห่ง ดังนี้

ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (ยกเว้นสาขาไมโคร) โทร. 1333
ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) โทร. 0-2111-1111
ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) โทร. 0-2888-8888 กด 819
ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) โทร. 0-2777-6784
บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) โทร. 0-2165-5555 (ซึ่งรวมถึงธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) ในฐานะหน่วยงานขายของบริษัทหลักทรัพย์เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน))

อ้างอิง
https://www.prachachat.net/finance